รู้หรือไม่ว่า...แบคทีเรียดี เป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนักตัวของคุณได้ โปรไบโอติกมีผลต่อการดูดซึมสารอาหารซึ่งเป็นตัวควบคุมความอยากอาหารและแนวโน้มในการสะสมไขมัน
แบคทีเรียที่เป็นมิตรและพรีไบโอติก (กากใยที่โปรไบโอติกใช้เป็นอาหาร) จะช่วยเร่งการลดไขมันได้อย่างน่าทึ่ง (หากคุณต้องการลดน้ำหนัก WH แนะนำให้ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกอย่างน้อยวันละ 50 กรัม และพรีไบโอติกอีก 20 กรัม)



1.โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ข้าวหมาก ผักดอง เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติก คุณควรเลือกผักแบบที่ดองในเกลือทะเลและน้ำ เพราะผักที่ดองด้วยน้ำส้มสายชูจะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากแบคทีเรียชนิดดีไม่เต็มที่

2.ถั่วแขก อุดมด้วยแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ ซึ่งเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ถ้าคุณนำถั่วแขกไปลวก แล้วต่อด้วยการแช่ในน้ำเย็นจัดๆ ก็จะได้ถั่วแขกสีสวยที่ช่วยลดน้ำหนักได้มากขึ้น

3.แตงโม แต่ละเสี้ยว (1/16) มีพรีไบโอติก 1 กรัม ซึ่งถ้าจะให้ได้รับพรีไบโอติกในปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ละวันคุณคงต้องกินแตงโมทั้งลูก แต่โชคดีที่อาหารที่อุดมไปด้วยอาหารของแบคทีเรียดีไม่ได้มีแค่แตงโม

4. กระเทียมต้น เพียงแค่ครึ่งต้นมีอินูลินซึ่งเป็นพรีไบโอติกถึง 5 กรัม และยังมีโอลิโกฟรุคโตสซึ่งช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอีก 5 กรัม จึงเป็นสองเหตุผลดีๆ ที่คุณควรลองกินดูนะคะ

5. กระเทียม นอกจากจะช่วยเพิ่มจำนวน L Reuteri แล้ว (แบคทีเรียที่ช่วยต้านโรค) กระเทียมเพียงสองกลีบยังช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของอี.โคไล (แบคทีเรียชนิดไม่ดี) และทำให้คุณได้รับพรีไบโอติกอีก 1 กรัมด้วย

6. ต้นหอม อุดมด้วยพรีไบโอติกที่ช่วยระงับความอยากอาหารอย่างฟรุคแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในส่วนสีขาวที่เป็นหัวใต้ดิน กินข้าวผัดอย่าเขี่ยหอมต้นทิ้งนะคะ ผักชนิดนี้ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีทีเดียว

7. หน่อไม้ฝรั่ง 5-6 ต้น มีพรีไบโอติกถึง 6 กรัม แต่การต้มนานๆ ทำให้ผักชนิดนี้ช่วยลดไขมันของคุณได้น้อยลง จึงควรต้มโดยใช้ไฟอ่อนแค่ 2 นาที ให้ได้หน่อไม้ฝรั่งกรอบๆ ที่ต้องใช้เวลาย่อยในท้องนานอีกนิด

8. แก่นตะวัน สมุนไพรไทยยอดฮิตรสชาติคล้ายมันแกว ที่คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด แค่ 20 กรัมก็มีอินูลิน พรีไบโอติกถึง 3.5 กรัม จะกินสดเป็นอาหารว่าง หรือนำไปต้มบดใส่พริกไทยและน้ำมัน คุณก็จะได้เมนูคาร์โบไฮเดรตต่ำซึ่งดีต่อสุขภาพมากินแทนมันบดแล้ว

9. กล้วย อุดมไปด้วยโอลิโกฟรุคโตสพรีไบโอติก และหาได้แสนง่ายในบ้านเรา ถ้าอยากปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้เพื่อช่วยลดอาการท้องอืด แนะนำให้กินกล้วยสักวันละ 2 ผลค่ะ



บทความจาก...... Men's Health Magazine