วอลนัท (Walnut) พืชในตระกูล Juglandaceae เป็นถั่วเปลือกแข็งซึ่งเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งปริมาณ 1/4 ถ้วย มีปริมาณโอเมก้า-3 มากถึง 90.8 เปอร์เซนต์ของความต้องการของร่างกายต่อวัน
วอลนัท 50 กรัม จะให้คุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับนมโค 500 กรัม หรือไข่ไก่ 250 กรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันความดันโลหิตสูง และไม่ให้หัวใจเต้นผิดปกติลดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของหัวใจวายช่วยการทำงานของสมอง ป้องกันการอักเสบ โรคหืด ไขข้อ การอักเสบของผิวหนัง
นอกจากนี้แล้ว วอลนัทยังมีกรดเอลลาจิก(Ellagic Acid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันมะเร็งและยังมีกรดอะมิโนจำเป็นชนิดแอล-อาร์จินีน(L-arginine) สูงในซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยให้ผนังหลอดเลือดเรียบและคลายตัว ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูง รวมทั้งมีแร่ธาตุจำเป็นและโฟเลตในปริมาณสูง
รู้อย่างนี้แล้วคงเริ่มสนใจหันมาเลือกกินวอลนัทเป็นอาหารว่างแทนขนมชนิดอื่น แต่ต้องเตือนให้ระวังน้ำหนักที่จะขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะวอลนัทเองมีพลังงานสูงจากไขมัน ในปริมาณ ¼ ถ้วยตวงให้พลังงานมากถึง 160 กิโลแคลอรี ดังนั้นเราเองต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม
บทความจาก...... เพจ หน่วยสุขศึกษา รพ.จุฬาลงกรณ์
Advertisements
Advertisements
0 ความคิดเห็น