หน้าสวย เด้ง ตำรับสมุนไพรไทยโบราณ อยากสวยตำรับธรรมชาติต้องรู้จริง!
ใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ตั้งแต่ผิวยังไม่แตกวัยสาวอันตรายไหมคะ ข้อนี้คุณแม่ยังสาวผิวขาวปิ๊งที่ปกติใช้สูตรบำรุงผิวแบบโบราณ ตั้งโจทย์มาถามทีมงานด้วยความห่วงใยลูกสาว WH จึงไม่รอช้า ไปค้นคว้าหาข้อมูลแบบจัดเต็มมาให้คุณผู้อ่านที่รักคลายความกังวลใจในทันที
Photo By muitochique.com
>> เครื่องสำอางของวัยสาวสิ่งที่วัยทีนเอจ หรือสาววัยไหนก็ตามต้องการมากที่สุดก็คือ แอนตี้เอจจิ้ง โปรดักต์หรือผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยทุกชนิด ซึ่งฮอตฮิตติดกระแสกันมากในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นซันบล็อก ซันสกรีนป้องกันผิวถูกทำลาย มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวชุ่มชื่น แอนตี้ริงเคิล ยับยั้งรอยเหี่ยวย่น และที่นิยมใช้กันสุด ๆ ระยะนี้คือ ไวเทนเนอร์ หรือสารช่วยให้ผิวขาวที่ผสมอยู่ในครีม โลชั่น เดย์ครีม ไนต์ครีม เอสเซนส์ หรือแม้แต่แชมพู ครีมนวดผม แม้กระทั่งที่ทารักแร้ (โอ้ แม่เจ้า) ต่างกันแค่ผิวหน้า สาวรุ่นส่วนใหญ่มักมีสิวมาสิงสถิต โดยไม่ได้ขอยื่นใบอนุญาต ดังนั้นจึงต้องมีผลิตภัณฑ์รักษาสิวเป็นกองขับไล่อีกแรง
เพราะเหตุที่วัยรุ่นเป็นวัยที่มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติล้นเหลือกว่าวัยใด บางคนฟังแล้วอาจยกมือค้านว่าใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอยตั้งแต่อายุสิบกว่า ไม่เกินวัยหรือเกินความจำเป็นไปหน่อยหรือ อันนี้ขอเคลียร์ให้กระจ่างใจว่า การที่คนเราจะใส่ใจป้องกันผิวร่วงโรยตั้งแต่วัยเริ่มผลิบาน มันผิดตรงไหน เพราะใช้แล้วก็ไม่เป็นอันตรายต่อผิวสักหน่อย
ถ้าจะกลัว ควรกลัวส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐานมากกว่า ผลิตภัณฑ์ประเภทไม่ผ่านขั้นตอนทดสอบการระคายเคืองผิวตามมาตรฐานสากลมาก่อนนี่สยองแน่ เช่น ปล่อยให้สารปนเปื้อนอย่างเชื้อรา ยาฆ่าแมลง เมื่อเอามาทาจึงเกิดอาการแพ้ เป็นผื่นตามใบหน้าและเนื้อตัว
Photo By kombuchakamp.com
>> อยากสวยตำรับธรรมชาติต้องรู้จริงสูตรโบราณสารพัดสารพัน เช่น น้ำมันมะพร้าวชโลมผม ขมิ้นหรือน้ำนมบำรุงผิวนุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นภูมิปัญญาของบรรพชนน่าเชื่อถือว่าใช้ได้ผล เพราะผ่านการทดลองกับคนจริง ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน พอใช้ได้ผลดี คนโบราณก็เลยบอกต่อสืบทอดกันมา บางสูตรใช้มานานเป็นพันปีด้วยซ้ำ แต่มีข้อแม้แค่เราต้องศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้เสียก่อนว่าภูมิปัญญาเก่า ๆ สูตรเขาทำอย่างไร ใช้อย่างไรจึงได้ผลดีจริง
เมื่อปลอดภัยแน่แล้ว ประการต่อไปที่ผองเราเหล่าคนรักความงามต้องคำนึงถึงคือใช้แล้วต้องได้ผลดีสม่ำเสมอ แต่เครื่องสำอางสมุนไพรที่กำลังบูมในบ้านเราขณะนี้ บางยี่ห้อไม่มีการควบคุมคุณภาพ และไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เรียกว่าผู้ผลิตบางรายไม่มืออาชีพพอว่างั้นเหอะ จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสาวตาดำ ๆ อย่างพวกเรา
Photo By babble.com
ตรงข้ามกับสูตรบำรุงความงามต่าง ๆ ที่คนโบราณเขาทำใช้กันสด ๆ ครั้งต่อครั้ง ซึ่งให้ผลดีและมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะสารที่มีประโยชน์ในพืชพันธุ์สดนั้นยังไม่สลายตัวเชื้อปนเปื้อนจึงน้อยมากเมื่อนำมาใช้จึงได้รับสารที่เป็นประโยชน์เต็มที่ แต่พอเราทำให้สมุนไพรตาย แล้วเอาน้ำหรือเนื้อเยื่อมาบรรจุแพ็กเกจเก็บไว้ น้ำที่อุดมด้วยวิตามินนี่แหละเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดสำหรับแบคทีเรียตัวร้าย อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ ของสดก็เหมือนร่างกายคนเราที่ยังไม่ตาย จึงยังคงคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อ แต่พอไม่มีชีวิตแล้วร่างกายเราก็ขาดภูมิคุ้มกันโรค
อ้าว...งั้นคงต้องเซย์กู๊ดบายผลิตภัณฑ์ความงามจากธรรมชาติน่ะสิ ก็ถูกอยู่ แต่แค่เพียงส่วนเสี้ยวเท่านั้น เพราะถ้าผู้ผลิตพิถีพิถันต่อกระบวนการสกัดสารที่มีประโยชน์ในสมุนไพร โดยใช้เทคโนโลยีที่ดีเป็นตัวช่วยเครื่องสำอางก็ไม่มีเชื้อปนเปื้อน คงไว้ซึ่งคุณประโยชน์ล้วน ๆ และอยู่ได้ยาวนานโดยไม่เสื่อมสภาพหรือสลายตัว อย่างที่เรียกกันว่ามีความคงตัว ซึ่งหมายถึงคงสารสำคัญไว้ได้ประมาณ 90% ขึ้นไปจวบจนถึงวันหมดอายุ เห็นตัวอย่างได้จากผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมไลน์ธรรมชาติแบรนด์ดังทั้งของนอกและของไทย
ฉะนั้นถ้าอยากสวยด้วยฉลาดด้วยเวลาซื้อผลิตภัณฑ์ เราในฐานะผู้บริโภคจึงต้องตรวจดูวันผลิต วันหมดอายุบนฉลากให้ดี ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดีมันจะบอกแต่วันผลิตอย่างเดียว แต่ไม่บอกวันหมดอายุ (เอากะมันสิ) นอกจากนี้ยังต้องดูว่าบริษัทไหนผลิต รวมถึงต้องมีมาตรฐานในการผลิตที่ดีขั้นต่ำสุด
อย่างที่ศัพท์วิชาการเรียกว่า ‘Good Manufacturing Practice’ หรือ GMP อันเป็นมาตรฐานในระดับสากล เช่น ถ้าข้างกล่องกำหนดว่ามี GMP ก็หมายความว่าเขามีกรรมวิธีในการผลิตเป็นที่ยอมรับได้ในระดับนานาชาติ และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไม่ต่ำกว่า 90% เมื่อถึงวันหมดอายุ ห้ามน้อยกว่านี้
ประการสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเลือกเครื่องสำอางสมุนไพรก็คือ ผลิตภัณฑ์นั้นต้องมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ที่ดี แต่ปัญหาใหญ่ในบ้านเราก็มีอยู่ว่า เรายังมีหน่วยงานที่คอยตรวจสอบดูแลคุณภาพและปริมาณมหาศาลที่แข่งกันทำออกมาขาย นี่เองของไม่ดีจึงเล็ดลอดมาทำร้ายผิวพรรณเราได้
อ้างอิงบทความจาก... womenshealththailand.com นิตยสาร Women's Health ฉบับเดือนมิถุนายน 2013
Advertisements
Advertisements
0 ความคิดเห็น