Photo By www.wikihow.com
แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนในช่วงวัยเจริญพันธุ์ต้องมีเลือดออกทางช่องคลอดออยู่แล้วทุกเดือน แต่ลักษณะไหนบ้างที่เราจะเรียกว่าเลือดออกผิดปกติ ? โดยทั่วไปลักษณะประจำเดือนที่ปกติ จะมาเป็นประจำทุกเดือน ครั้งละไม่เกิน 7 วัน และปริมาณเท่าๆกันทุกครั้ง
เพราะฉะนั้นหากมีเลือดออกกะปริบกะปรอยก่อน หรือ หลังมีประจำเดือน หรือระหว่างรอบเดือน รวมไปถึงเลือดประจำเดือนที่มาตามรอบเดือนปกติแต่มาปริมาณมากและมานานขึ้น ก็จะถือว่าผิดปกติทั้งหมด
อีกทั้งในกลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งไม่ควรมีเลือดออกทางช่องคลอดอีกแล้ว หากมีเลือดออกมาอีกไม่ว่าในลักษณะใดก็ตามถือว่าผิดปกติเช่นกัน
นพ.วรวัฒน์ ศิริปุณย์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลเวชธานี ได้ให้ข้อมูลว่า อาการเลือดออกกะปริบกะปรอยนี้สามารถเกิดได้กับทุกคน
โดยอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ การมีเนื้องอกหรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก การติดเชื้อในโพรงมดลูก ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ รวมไปถึงที่หลายๆคนกลัวกัน ก็คือการเป็นมะเร็งทั้งที่บริเวณปากมดลูกหรือภายในโพรงมดลูก
อย่างไรก็ตามโอกาสการเกิดมะเร็งนั้นมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับเลือดออกกะปริบกะปรอยจากสาเหตุอื่นแต่ก็ถือเป็นสาเหตุที่สำคัญและเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเมื่อเกิดความผิดปกติขึ้นก็ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องต่อไป
โดยหลังจากตรวจแล้วว่าไม่ตั้งครรภ์ เบื้องต้นผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติก็จะได้รับการตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุว่าเลือดที่ออกกะปริบกะปรอยนั้นมาจากบริเวณช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูกหรือไม่ แต่หากตรวจพบว่าเลือดออกมาจากในโพรงมดลูก ก็ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินหารอยโรคในโพรงมดลูก ซึ่งก็สามารถตรวจได้หลายวิธี
การอัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอดเพื่อตรวจหารอยโรคในโพรงมดลูกก็สามารถให้คำตอบเราได้หลายอย่าง มีข้อดีคือ สามารถตรวจประเมินตัวมดลูกและบริเวณปีกมดลูกได้ด้วย แต่ก็มีข้อเสียเรื่องความแม่นยำในการวินิจฉัยความผิดปกติภายในโพรงมดลูก และไม่สามารถทำการรักษาได้ในคราวเดียวกัน
ปัจจุบันจึงมีการนำเอาเทคโนโลยีการส่องกล้องโพรงมดลูกเข้ามาใช้เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น และถือเป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจอาการเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกอีกด้วย
การตรวจด้วยการส่องกล้องโพรงมดลูกก็คล้ายการตรวจภายใน เพียงแต่จะใช้กล้องขนาดเล็กสอดผ่านจากปากมดลูกเข้าไปสู่โพรงมดลูก ทำให้เราสามารถมองเห็นความผิดปกติในโพรงมดลูกได้ด้วยตา สามารถระบุตำแหน่งผิดปกติได้แม่นยำ
และสามารถทำการตัดรอยโรคที่ผิดปกตินั้นเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาต่อไปได้ อีกทั้งหากสาเหตุที่เลือดออกกะปริบกะปรอยเป็นจากรอยโรคนั้นโดยตรง การตัดออกในคราวเดียวกับที่ส่องกล้องโพรงมดลูก ก็ถือเป็นการรักษาไปในตัวได้อีกด้วย
ซึ่งวิธีนี้ทำได้ง่าย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่มีแผลผ่าตัด และต่างจากการสุ่มตรวจเนื้อเยื่อในโพรงมดลูกหรือการขูดมดลูกซึ่งอาจจะพลาดรอยโรคในโพรงมดลูกบางชนิดได้
Photo by www.womenshealth.gov
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หากคุณผู้หญิงท่านใดเกิดมีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด ก็ควรรีบมาพบแพทย์หรือหากไม่มีอาการผิดปกติใด ก็ควรมารับการตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีเพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ทันท่วงที
บทความจาก...... แพรวดอทคอม
Advertisements
Advertisements
0 ความคิดเห็น