ทราบกันหรือไม่...ว่าเราสามารถกินยาร่วมกับอะไรได้บ้าง หรือไม่ได้บ้าง วันนี้เราขอแนะนำความรู้ดีๆเกี่ยวกับการกินยามาฝากกัน เพื่อที่จะได้ทานยากันให้ถูก ต้อง และได้ผล ไม่ไปยับยั้งฤทธิ์ยา หรืออาจเสริมฤทธิ์ให้เกินขนาด มีอะไรบ้าง มาดูกัน!
1. ยาแก้ปวดลดไข้ พาราเซตตามอน และแอสไพริน ไม่ควรกินขณะท้องว่าง โดยเฉพาะแอสไพรินที่อาจกัดกระเพาะ และห้ามทานร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำ ผลไม้รสเปรี้ยว เพราะจะไปเสริมฤทธิ์ให้ผลข้างเคียงของยารุนแรงขึ้น
2. ยาแอนตี้ฮีสตามิน ประเภทแก้หวัด ลดน้ำมูก นี่ก็เช่นกันทานร่วมกับแอลกอฮอล์ไม่ได้ เพราะจะไปเสริมฤทธิ์ให้ยิ่งง่วงซึมหนักขึ้นไปอีก และอาจมีอาการหัวใจเต้นแรง ปากคอแห้งหนักกว่าเก่า อีกการทานยาร่วมกับน้ำผลไม้ก็จะไปลดประสิทธิภาพของยาลง เพราะฉะนั้น ดื่มกับน้ำเปล่าเถอะค่ะ
3. ยาแอนตี้ไบโอติก หรือยาประเภทรักษา หู คอ จมูก พวกเตตร้าไซคลิน ห้ามทานร่วมกับนมทุกชนิด ทุกรสชาติ ร่วมถึงเนยและเนยแข็งหรือชีสด้วย เพราะตัวยาจะไป จับกับแคลเซียม ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าผนังลำไส้ เพื่อเข้าสู่กระแสเลือดได้ และจะถูกขับออกมากับกากอาหารในที่สุด
4. ยารักษาอาการหอบหืด ห้ามทานร่วมกับเครื่องดื่มคาเฟอีนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ เหล้า เบียร์ ระหว่างทานยา หรือเป็นโรคนี้ควรงดเครื่องดื่มประเภทนี้ไปเลยดี ที่สุด
5. ยาลดการอักเสบ เช่น ไอบรูโพรเฟน(Ibuprofen), ไดโคลฟิแนค(Diclofenac), ไพร็อกซิแคม (Piroxicam), แอสไพริน (Aspirin) จะระคายกระเพาะจึงไม่ควรทานร่วม กับแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะทานพร้อมกันหรือทานในระหว่างที่ยาออกฤทธิ์ เพราะจะทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ง่าย
6. ยาประเภทป้องกันการเกิดลิ่มเลือด หรือยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin ห้ามรับประทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินเคสูง เช่นพวกตับหมู ตับวัว ผักใบเขียว อย่างบร๊อคโคลี่ ผักขม ชาเขียว กระหล่ำปลี เพราะจะไปต้านฤทธิ์ยา
7. การทานยา ไม่ควรทานกับ น้ำชา หรือกาแฟ เพราะจะทำให้การดูดซึมของยาลดลงด้วย ร่างกายได้รับยาไม่เต็มที่ ใครที่ดื่มชากาแฟตอนเช้า ก็ควรทาน ยาหลังจากนั้นหรือก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และแม้ว่าการทานอาหารประเภทที่มีนมเป็นส่วนผสมจะไม่ถูกกับยาประเภทแอนตี้ไบโอติก
Photo By www.flanderstoday.eu
ก็ควรระวังสำหรับการทานร่วมกับยาประเภทอื่นด้วยเหมือนกัน เพราะคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ไม่น่าจะรู้จักส่วนประกอบของยาเท่าไหร่ เดี๋ยวการรักษาจะไม่เกิดผล
เพราะฉะนั้นการทานยาที่ถูกต้องคือทานกับ น้ำเปล่า โดยทานตามคำแนะนำว่าให้ทานก่อนอาหารกี่นาที หรือหลังอาหารในทันที เพื่อให้เกิดการออกฤทธิ์รักษาโรคที่ ได้ผลดีนะคะ
บทความจาก......cosmenet.in.th
Advertisements
Advertisements
0 ความคิดเห็น