สาวๆหลายคนอาจจะบำรุงผิวหน้ามากก็มากพอสมควรแล้ว วันนี้เราขอแนะนำให้สาวๆทุกคนที่สนใจในเรื่องของความสวยความงามมาลองนวดหน้ากันดูสักครั้งดีหรือไม่ค่ะ การนวดหน้านั้นเป็นวิธีการปรนนิบัติผิวที่ดีมากวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้

เพราะว่าการนวดที่บริเวณใบหน้าของเรานั้นจะช่วยให้ผิวหน้าที่มีรูขุมขนที่กว้างมากจนอาจจะกลายสภาพจากรูขุมขนเป็นหลุมบ่อได้เลยทีเดียว ซึ่งการนวดหน้านี้จะเป็นการช่วยกระชับรูขุมขนของใบหน้าให้กับสาวๆที่มีรูขุมขนบนใบหน้ากว้างได้เป็นอย่างดียิ่งเลยละค่ะ

เมื่อรู้ขุมขนบนใบหน้ากระชับแล้วความรู้สึกที่ได้หลังจากรูขุมขนที่แคบเล็กลงแล้วนั่นคือผิวหน้าของคุณจะกระชับขึ้นมาอย่างมากเลยทีเดียว และการนวดหน้านี้จะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ซึ่งจะทำให้ใบหน้าของเราแลดูสดใสมีน้ำมีนวลขึ้นมามากเลยหละค่ะ ถ้าอย่างนั้นผู้เขียนก็ขอแนะนำสูตรครีมนวดหน้าที่เราทำขึ้นมาเองโดยใช้ผลไม้รอบตัวเรา โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางราคาแพงสักนิดเดียวค่ะ

ส่วนผสมที่เราจำเป็นต้องใช้ในการปรุงครีมนวดหน้าแอปเปิลและน้ำผึ้งนี้ก็จะมีดังต่อไปนี้ค่ะ



1. แอปเปิลแดงจำนวน 1 ผล



2. น้ำผึ้งจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ(หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะไปหาซื้อน้ำผึ้งได้จากที่ไหนกัน ไม่ต้องกังวลค่ะ แค่สาวๆไปที่ร้านสะดวกซื้อก็สามารถหาซื้อน้ำผึ้งได้แล้วละค่ะราคาก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ)

3. นมพร่องไขมันจำนวน 2 ช้อนโต๊ะ (สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปค่ะ ถ้าจะให้ดีก็ไปซื้อพร้อมกับน้ำผึ้งได้เลยค่ะ)

ต่อไปเป็นขั้นตอนในการปรุงส่วนผสมต่างๆ ซึ่งขั้นตอนวิธีการทำก็มีดังต่อไปนี้ค่ะ

1. นำแอปเปิลที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด แต่ไม่ต้องปอกเปลือกนะค่ะ จากนั้นให้หั่นแอปเปิลออกเป็นชิ้นเล็ก เพื่อง่ายและสะดวกในการปั่น

2. นำแอปเปิลชิ้นเล็กที่หั่นไว้มาใส่ลงเครื่องปั่น แล้วตามด้วยน้ำผึ้ง ปั่นทั้งสองส่วนให้เข้ากัน

3. เทน้ำพร่องไขมันตามจำนวนที่เตรียมไว้ตามลงไป จากนั้นก็ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว

4. ล้างหน้าของสาวๆให้สะอาดหมดจด

5. พอกครีมที่ได้ลงบนใบหน้า

6. จากนั้นให้ใช้นิวกลางและนิ้วนางนวดครีมที่นำมาพอกไว้บนใบหน้าอย่างเบามือให้ทั่วใบหน้า (อย่าใช้นิ้วชีหรือนิ้วโป้งนะค่ะสาวๆเพราะว่าทั้งสองนิ้วนี้มีแรงกดมากเกินไปจะทำให้ใบหน้าเราช้ำเสียเปล่าๆ)


7. ทิ้งครีมไว้บนใบหน้านานประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้สาวๆก็จะได้ผิวหน้าที่มีรูขุมขนกระชับ ตึง แถมเลือดลมยังไหลเวียนดีอีกต่างหากแล้วละค่ะ






บทความจาก...... banlady.com