แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูแลสุขภาพของตัวเองดี ใช้ครีมกันแดด ไม่สูบบุหรี่ ไม่แตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ความชราก็สามารถมาเยือนก่อนวัยอันควรได้ หากคุณยังมีนิสัยเช่นนี้
1.ฝืนกินมากเกินไป
คำสอนของผู้ใหญ่มักสอนว่า ควรรับประทานอาหารให้หมดจาน แต่ทั้งนี่คุณทราบหรือไม่ว่า การที่ฝืนรับประทานอาหารขณะที่ท้องอิ่ม เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะยิ่งทำให้ร่างกายเสื่อมเร็ว เนื่องจากเซลล์ต้องทำงานหนัก เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนที่เกินความต้องการ จากการศึกษาของ The Journal Science พบว่า เมื่อลดปริมาณอาหารลงร้อยละ 10-50 ของที่เคยรับประทาน ทำให้อัตราการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง
2.สะสมความเครียด
ความเครียดสะสม คือ ความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและไม่ได้รับการปลดปล่อย ก่อให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ อาทิ อ้วน นอนไม่หลับ ความจำสั้น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคเส้นเลือดในสมอง ฯลฯ ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร รู้เช่นนี้ควรหาทางหลีกเลี่ยงความเครียด โดยการออกกำลังกาย ทำจิตใจให้ผ่องใส จะเป็นโยคะ รำมวยจีน หรือการสมาธิก็ช่วยได้
3. ไม่แปรงฟันก่อนนอน
ข้อมูลจาก The British Medical Journal กล่าวว่า ผู้ที่แปรงฟันน้อยครั้ง ร้อยละ 70 มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่แปรงฟันวันละ 2 ครั้งต่อวัน เพราะแบคทีเรียที่ตกค้างในช่องปาก จะแทรกซึมสู่กระแสเลือด หากเลือดจับตัวกันเป็นก้อนจะเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน และหากเลือดไปจับตัวที่บริเวณลิ้นหัวใจ ทำให้เยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต นอกจากนี้การไม่รักษาความสะอาดช่องปาก ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่าย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แก่เร็ว
4. เริ่มต้นวันด้วยขนมปังปิ้งหรือซีเรียล
อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญก็จริง แต่การรับประทานขนมปังปิ้งหรือซีเรียลเป็นอาหารเช้าทุกวัน ไม่ได้ทำให้คุณสุขภาพแข็งแรงดีแต่อย่างใด สถาบันโรคหัวใจและเบาหวาน เบเกอร์ ไอดีไอ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า อาหารที่อาจสร้างสารเคมีที่เรียกว่า เอจีอีส์ (AGEs)ตัวสร้างปัญหาสุขภาพ หากไปจับตัวกับเซลล์ใดๆ ในร่างกาย จะทำให้เซลล์แก่และตายไป ซึ่งสารเคมีตัวนี้ พบในอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาล เช่น ขนมปังขาว แฮมเบอเกอร์ อาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอนอย่างซีเรียล รวมถึงอาหารที่ผ่านการปิ้ง ทอด ย่างอุณหภูมิสูง หากมีสารเคมีประเภทนี้สะสมในร่างกายมากจะทำให้ ผิวหนังเหี่ยวย่น และอาจก่อให้เกิดโรหัวใจและเบาหวานได้
1.ฝืนกินมากเกินไป
คำสอนของผู้ใหญ่มักสอนว่า ควรรับประทานอาหารให้หมดจาน แต่ทั้งนี่คุณทราบหรือไม่ว่า การที่ฝืนรับประทานอาหารขณะที่ท้องอิ่ม เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะยิ่งทำให้ร่างกายเสื่อมเร็ว เนื่องจากเซลล์ต้องทำงานหนัก เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนที่เกินความต้องการ จากการศึกษาของ The Journal Science พบว่า เมื่อลดปริมาณอาหารลงร้อยละ 10-50 ของที่เคยรับประทาน ทำให้อัตราการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง
2.สะสมความเครียด
ความเครียดสะสม คือ ความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและไม่ได้รับการปลดปล่อย ก่อให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ อาทิ อ้วน นอนไม่หลับ ความจำสั้น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคเส้นเลือดในสมอง ฯลฯ ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร รู้เช่นนี้ควรหาทางหลีกเลี่ยงความเครียด โดยการออกกำลังกาย ทำจิตใจให้ผ่องใส จะเป็นโยคะ รำมวยจีน หรือการสมาธิก็ช่วยได้
3. ไม่แปรงฟันก่อนนอน
ข้อมูลจาก The British Medical Journal กล่าวว่า ผู้ที่แปรงฟันน้อยครั้ง ร้อยละ 70 มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่แปรงฟันวันละ 2 ครั้งต่อวัน เพราะแบคทีเรียที่ตกค้างในช่องปาก จะแทรกซึมสู่กระแสเลือด หากเลือดจับตัวกันเป็นก้อนจะเกิดภาวะเส้นเลือดอุดตัน และหากเลือดไปจับตัวที่บริเวณลิ้นหัวใจ ทำให้เยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต นอกจากนี้การไม่รักษาความสะอาดช่องปาก ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระได้ง่าย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แก่เร็ว
4. เริ่มต้นวันด้วยขนมปังปิ้งหรือซีเรียล
อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญก็จริง แต่การรับประทานขนมปังปิ้งหรือซีเรียลเป็นอาหารเช้าทุกวัน ไม่ได้ทำให้คุณสุขภาพแข็งแรงดีแต่อย่างใด สถาบันโรคหัวใจและเบาหวาน เบเกอร์ ไอดีไอ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า อาหารที่อาจสร้างสารเคมีที่เรียกว่า เอจีอีส์ (AGEs)ตัวสร้างปัญหาสุขภาพ หากไปจับตัวกับเซลล์ใดๆ ในร่างกาย จะทำให้เซลล์แก่และตายไป ซึ่งสารเคมีตัวนี้ พบในอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาล เช่น ขนมปังขาว แฮมเบอเกอร์ อาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปหลายขั้นตอนอย่างซีเรียล รวมถึงอาหารที่ผ่านการปิ้ง ทอด ย่างอุณหภูมิสูง หากมีสารเคมีประเภทนี้สะสมในร่างกายมากจะทำให้ ผิวหนังเหี่ยวย่น และอาจก่อให้เกิดโรหัวใจและเบาหวานได้
ที่มา : นิตยสารสุขภาพดี
Advertisements
Advertisements
0 ความคิดเห็น