พวกเขาเรียกเธอว่า ราชินีผัก เพราะคุณค่าทางอาหารของผักแคลล้ำหน้าผักสีเขียวอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย

อย่างที่อาจจะคุ้นเคยสำหรับคนไทยเราก็คงจะเป็น อาโอจิรุ (Aojiru) หรือน้ำผักเคลสูตรญี่ปุ่นอันโด่งดัง และน่าจะหลงเหลือคุณค่ามากกว่าเมนูแบบยุโรปที่มักนำมาทำเป็นซุป นำมาทานกับสตูว์ หรือทอดกรอบ

นักวิชาการส่วนหนึ่งเตือนว่าไม่ควรทานผักเคลดิบ ๆ เพราะแม้คุณค่าครบก็จริง แต่อาจเกิดไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroid) เสี่ยงต่อการเป็นคอพอกเหมือนการกินผักกระหล่ำ

ซึ่ง...คนไทยกินผักกระหล่ำดิบกันเป็นกิจวัต เนื่องจากเป็นผักแกล้มไส้กรอกย่าง ลูกชิ้นปิ้ง ใครมีอาการไฮโปไทรอยด์ ช่วยรายงานให้เพื่อน ๆ ทราบกันด้วยก็จะดี ส่วนใครจะยังคงกินต่อไปก็ควรต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจริงไหม และพิจารณากันเองจะดีกว่า

สำหรับผักเคล ที่เรียกว่าคะน้าใบหยิกนั้น ก็เพราะรสชาติที่คล้ายกับคะน้ามากที่สุดในจำนวนผักของไทย แต่บางคนขอค้านว่าไม่เหมือนแม้ใบจะหยาบเหมือนกัน จะอะไรยังไงก็ตาม

แต่ที่แน่ ๆ ผักเคลนั้นมีคุณค่าทางอาหารมากมายเกินกว่าจะมองข้าม ไม่ว่าจะเอามาปั่นแยกกากหรือใส่ในกรีนสลัด คุณค่าในผักเกลที่สำคัญคือมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก รวมถึงวิตามินซี วิตามินเค แคลเซียมสูง มีแคโรทีนอยสองชนิด มีองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญซึ่งเมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วจะไปหยุดยั้งเซลล์มะเร็งได้ดี

แม้เป็นผักที่ให้คุณค่าทางอาหารคล้ายคลึงกับผักในตระกูลเดียวกันคือตระกูลบล๊อคโคลี่ แต่ก็ดูเหมือนจะถูกยกให้เป็นราชินี นั่นคือเธอมีเยอะกว่าเพื่อนนั่นเอง อีกอย่างที่สาว ๆ น่าจะชอบคือ ราชินีเคลมีแคลอรี่ต่ำ แต่คุณค่าทางอาหารสูง

ดังนั้น ถ้าจะลดน้ำหนักแบบให้ได้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายค่อนข้างมาก ก็ทานผักเคลนี่แหละ สวยสลิมแบบได้คุณค่าแน่นอน ซึ่งคุณค่าที่ว่ามายังไม่ใช่ทั้งหมด เอาเป็นว่าราชินีเคลเธอมาครบทั้งวิตามินเอ ซี เค อี ธาตุเหล็ก โฟเลท ไนอาซีน แคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม โซเดียม และ ซิงก์ เยอะใช่ไหมล่ะ


+ ถ้าว่ากันตามตำราที่แนะนำแบบฝรั่ง เขาบอกว่าเอาไปฟรีซในช่องฟรีซจะทำให้ผักเคลมีรสชาติที่หวานกว่า เพราะรสเดิมแท้นั้นขมนิด ๆ แบบคะน้า

+ ถ้าเอาให้ถูกปากคนไทย อาจทอดกรอบจิ้มน้ำจิ้ม หรือจะคิดค้นน้ำราดแบบยำผักบุ้งทอดกรอบก็น่าลอง

+ กินแบบญี่ปุ่น ก็คงต้องเอาไปทำเป็นน้ำผักเคล อาโอจิรุ แล้วรับประทานเย็น ๆ ชื่นใจ

+ นำไปทำเป็น "มันบดผักเคล" วิธีทำแสนง่าย ต้องเอาผักเคลไปหั่นซอย สับให้ละเอียดก่อนปั่นให้เนียน แล้วค่อยมาบดกับมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้ว เติมเนยละลายลงไปกับเกลือเล็กน้อย ก่อนนำลงไปผสมกับนมสดในความร้อนต่ำค่อย ๆ คนจนแห้งพอดี ไม่เละเกิน โรยพริกไทยดำลงไป คนให้เข้ากัน เตรียมเสิร์ฟเป็นมันบดผสมเคลสีออกเขียว รสชาติดี กลายเป็น Queen of mash potato เป็นอีกหนึ่งอาหารสุขภาพแบบอิ่มได้คุณค่า

ใครชอบทานแบบไหน ล้วนได้ประโยชน์จาก Queen of Green กันทั้งนั้น ว่าง ๆ ก็ไปเดินหาตามซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีผักนำเข้ามาขายแบบหลากหลาย แต่จริง ๆ คนไทยก็ปลูกกันเยอะแล้วด้วย มาใกล้ ๆ สดกว่า และถูกกว่า ไปหามาชิมด่วน





ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th